Hot Hot Turkey 8 D 6 N


พาคนรู้ใจไปกับเรา Public Holiday

Hilight

พิเศษ..!!! พักโรงแรมสไตล์ถ้ำ 1 คืน ณ เมืองคัปปาโกเกีย

อิสตันบูล - ม้าไม้เมืองทรอย - เมืองโบราณเอฟฟิซุส

ปามุคคาเล่ - คัปปาโดเกีย - อังการ่า ล่องเรือช่องแคบบอสฟอรัส

รายละเอียดทัวร์

ราคาเริ่มต้น : 28999 ประเทศ : ทัวร์ตุรกี,ทัวร์ปีใหม่ จำนวนวัน : 8 วัน 6 คืน เดือนที่ออกเดินทาง : เดือน กันยานยน - ธันวาคม 61 สายการบิน : Air Astana (KC)

วันที่ 1 - กรุงเทพฯ-อัลมาตี้-อิสตันบูล

07.30 น.

คณะผู้เดินทางพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น4 เคาน์เตอร์ Q แถว 14-20 ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทคยอำนวยความสะดวกเรื่องสัมภาระและเอกสารการเดินทางแก่ท่าน

10.30 น.

เหิรฟ้าสู่ นครอิสตันบูล เมืองหลวงออตโตมันของประเทศตุรกี ดินแดนแห่งนี้ร่ำรวยพรั่งพร้อมไป ด้วยประวัติศาตร์ สิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่อลังการมากมาย โดยสายการบิน Air Astana เที่ยวบินที่ KC-932

(ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6.30 ชั่วโมง)

16.30 น.

เดินทางถึง สนามบิน ณ เมืองอัลมาตี้ แวะเปลี่ยนเครื่องเพื่อเดินทางต่อไปยัง นครอิสตันบูล

17.55 น.

เหิรฟ้าสู่ กรุงอิสตันบูล โดยสายการบิน Air Astana เที่ยวบินที่ KC-911

(ใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 5 ชั่วโมง)

21.05 น.

เดินทางถึง สนามบินนานาชาติ อตาเติร์ก กรุงอิสตันบูล หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง

นำท่านเข้าสู่ที่พัก ISTANBUL PARK INN BY RADISON HOTEL หรือเทียบเท่า


วันที่ 2 - อิสตันบูล-สุเหร่าสีน้ำเงิน-ฮิปโปโดรม-พระราชวังทอปกาปึ-สุเหร่าเซนต์โซเฟีย-เมืองไอยวาริค-ม้าไม้จำลองเมืองทรอย

เช้า

บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นไม่ไกลนำทุกท่านชม สุเหร่าสีน้ำเงิน Blue Mosque หรือ Sultan Ahmet Mosque ถือเป็นสุเหร่าที่มีสถาปัตยกรรมเป็นสุดยอดของ 2 จักรวรรดิ คือ ออตโตมันและไบเซนไทน์ เพราะได้รวบรวมเอาองค์ประกอบจากวิหารเซนต์โซเฟียผนวกกับสถาปัตยกรรมแบบอิสลามดั้งเดิม ถือว่าเป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในตุรกี สามารถจุคนได้เรือนแสน ใช้เวลาในการก่อสร้างนานถึง 7 ปี ระหว่าง ค.ศ.1609-1616 โดยตั้งชื่อตามสุลต่านผู้สร้างซึ่งก็คือ Sultan Ahmed นั้นเอง จากนั้นนำทุกท่านสู่ จัตุรัสสุลต่านอะห์เมตหรือฮิปโปโดรม สนามแข่งม้าของชาวโรมัน จุดศูนย์กลางแห่งการท่องเที่ยวเมืองเก่า สร้างขึ้นในสมัยจักรพรรดิ เซปติมิอุสเซเวรุสเพื่อใช้เป็นที่แสดงกิจกรรมต่างๆของชาวเมือง ต่อมาในสมัยของจักรพรรดิคอนสแตนตินฮิปโปโดรมได้รับการขยายให้กว้างขึ้นตรงกลางเป็นที่ตั้งแสดงประติมากรรมต่าง ๆซึ่งส่วนใหญ่เป็นศิลปะในยุคกรีกโบราณในสมัยออตโตมันสถานที่แห่งนี้ใช้เป็นที่จัดงานพิธีแต่ในปัจจุบันเหลือเพียงพื้นที่ลานด้านหน้ามัสยิดสุลต่านอะห์เมตซึ่งเป็นที่ตั้งของเสาโอเบลิกส์3 ต้น คือเสาที่สร้างในอียิปต์เพื่อถวายแก่ฟาโรห์ทุตโมซิสที่ 3 ถูกนำกลับมาไว้ที่อิสตันบูลเสาต้นที่สอง คือ เสางู และเสาต้นที่สาม คือเสาคอนสแตนตินที่ 7 หลังจากนั้นนำทุกท่านชม พระราชวังทอปกาปึ ตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่าซึ่งถือเป็นเขตประวัติศาสตร์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโกตั้งแต่ปี ค.ศ. 1985 พระราชวังทอปกาปึ สร้างขึ้นโดยสุลต่านเมห์เมตที่ 2 ในปี ค.ศ.1459 บนพื้นที่กว้างใหญ่ถึง 4 ลานกว้าง และมีอาคารขนาดเล็กอีกจำนวนมาก ณ จุดที่สร้างพระราชวังแห่งนี้สามารถมองเห็นช่องแคบบอสฟอรัสโกลเดนฮอร์นและทะเลมาร์มาร่าได้อย่างชัดเจน ในช่วงที่เจริญสูงสุดของอาณาจักรออตโตมัน พระราชวังแห่งนี้มีราชวงศ์และข้าราชบริพารอาศัยอยู่รวมกันมากถึงสี่พันกว่าคนนำท่านเข้าชมส่วนของท้องพระโรงที่เป็นที่จัดแสดงทรัพย์สมบัติข้าวของเครื่องใช้ส่วนพระองค์เครื่องเงินต่างๆ มากมาย จากนั้นนำทุกท่านชม สุเหร่าเซนต์โซเฟีย(Saint Sophia)หรือ โบสถ์ฮาเจีย โซเฟีย1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง ปัจจุบันเป็นที่ประชุมสวดมนต์ของชาวมุสลิม ในอดีตเป็นโบสถ์ทางศาสนา คริสต์พระเจ้าจักรพรรดิคอนสแตนติน เป็นผู้สร้างเมื่อประมาณคริสต์ศตวรรษที่13 ใช้เวลาสร้าง 17 ปี เพื่อเป็นโบสถ์ของศาสนาคริสต์แต่ถูกผู้ก่อการร้ายบุกทำลายเผาเสียวอดวายหลายครั้งเพราะเกิดการขัดแย้งระหว่างพวกที่นับถือศาสนาคริสต์กับศาสนาอิสลามจวบจนถึงรัชสมัยของ พระเจ้าจัสตินเนียนมีอำนาจเหนือตุรกีจึงได้สร้าง โบสถ์เซนต์โซเฟีย ขึ้นใหม่ ใช้เวลาสร้างฐานโบสถ์ 20 ปี ตัวโบสถ์ 5 ปี เมื่อประมาณปี พ.ศ. 1996 (ค.ศ 1435) พระองค์ต้องการให้เป็นสิ่งสวยงามที่สุดได้พยายามหา สิ่งของมีค่าต่างๆมาประดับไว้มากมาย สร้างเสร็จได้มีการเฉลิมฉลองกันอย่าง มโหฬารต่อมาเกิดแผ่นดินไหวอย่างใหญ่ทำให้แตกร้าวต้องให้ช่างซ่อมจนเรียบร้อยในสภาพเดิมเมื่อสิ้นสมัยของจักรพรรดิจัสตินเนียน ถึงสมัย พระเจ้าโมฮัมเหม็ดที่ 2 มีอำนาจเหนือตุรกี และเป็นผู้นับถือศาสนาอิสลามจึงได้ดัดแปลงโบสถ์หลังนี้ให้เป็นสุเหร่าของชาวอิสลาม

กลางวัน

บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำท่านสู่เมืองชานัคคาเล่ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4.30 ชม. หลังจากนั้นนำทุกท่านออกเดินทางสู่นำท่านสู่ กรุงทรอย เพื่อชม ม้าไม้จำลองเมืองทรอย ซึ่งเปรียบเสมือนสัญลักษณ์อันชาญฉลาดด้านกลศึกของนักรบโบราณซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้กรุงทรอยแตก สงครามม้าไม้ เป็นสงครามที่สำคัญตำนานของกรีกและเป็นสงครามระหว่างกองทัพของชาวกรีกและกรุงทรอยหลังจากสู้รบกันเป็นเวลาสิบปี กองทัพกรีกก็ได้คิดแผนการที่จะตีกรุงทรอย โดยการสร้างม้าไม้จำลองขนาดยักษ์ที่เรียกว่าม้าไม้เมืองทรอย โดยทหารกรีกได้เข้าไปซ่อนตัวอยู่ในม้าโทรจันแล้วก็ทำการเข็นไปไว้หน้ากรุงทรอยเหมือนเป็นของขวัญและสัญลักษณ์ว่าชาวกรีกยอมแพ้สงครามและได้ถอยทัพออกห่างจากเมืองทรอย ชาวทรอยเมื่อเห็นม้าโทรจันก็ต่างยินดีว่ากองทัพกรีกได้ถอยทัพไปแล้วก็ทำการเข็นม้าโทรจันเข้ามาในเมืองแล้วทำการเฉลิมฉลองเป็นการใหญ่เมื่อชาวทรอยนอนหลับกันหมด ทหารกรีกที่ซ่อนตัวอยู่ก็ออกมาจากม้าโทรจันแล้วทำการเปิดประตูเมืองให้กองทัพกรีกเข้ามาในเมืองแล้วก็สามารถยึดเมืองทรอยได้ ก่อนที่จะทำการเผาเมืองทรอยทิ้ง จากนั้นนำท่านสู่ เมืองไอยวาริค(Ayvalik) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.40 ชม.

ค่ำ

บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม 

นำท่านเข้าสู่ที่พัก AYVALIK GRAND TEMIZEL HOTEL หรือเทียบเท่า


วันที่ 3 - โรงงานเครื่องหนัง-เมืองโบราณเอฟฟิซุส-บ้านพระแม่มารี-วิหารเทพีอาร์เทมิสปามุคคาเล่-ร้านขนม Turkish Delight

เช้า

บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางชม โรงงานเครื่องหนัง ซึ่งเป็นโรงงานผลิตเครื่องหนังขั้นดีส่งขายให้กับแบรนด์ชั้นนำหลากหลาย ให้ทุกท่านได้ทดลองการเป็นนายแบบและนางแบบเสื้อหนังต่างๆตามอัธยาศัย จากนั้นนำทุกท่านเดินทางสู่ เมืองโบราณเอฟฟิซุส เมืองโบราณที่มีการบำรุงรักษาไว้เป็นอย่างดีเมืองหนึ่ง เคยเป็นที่อยู่ของชาวโยนก (Ionia) จากกรีก ซึ่งอพยพเข้ามาปักหลักสร้างเมือง ซึ่งรุ่งเรืองขึ้นในศตวรรษที่ 6 ก่อนคริสต์กาล ต่อมาถูกรุกรานเข้ายึดครองโดยพวกเปอร์เซียและกษัตริย์อเล็กซานเดอร์มหาราช ภายหลังเมื่อโรมันเข้าครอบครองก็ได้สถาปนาเอฟฟิซุส ขึ้นเป็นเมืองหลวงต่างจังหวัดของโรมัน นำท่านเดินบนถนนหินอ่อนผ่านใจกลางเมืองเก่าที่สองข้างทางเต็มไปด้วยซากสิ่งก่อสร้างเมื่อสมัย 2,000 ปีที่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นโรงละครกลางแจ้งที่สามารถจุผู้ชมได้กว่า 30,000 คน ซึ่งยังคงใช้งานได้จนถึงปัจจุบัน นำท่านชม ห้องอาบน้ำแบบโรมันโบราณ (ROMAN BATH) ที่ยังคงเหลือร่องรอยของห้องอบไอน้ำ ให้เห็นอยู่จนถึงทุกวันนี้, ห้องสมุดโบราณ ที่มีวิธีการเก็บรักษาหนังสือไว้ได้เป็นอย่างดีทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นศิลปะแบบ เฮเลนนิสติคที่มีความอ่อนหวานและฝีมือประณีต

กลางวัน

บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านเข้าชม (House of Virgin Mary) บ้านพระแม่มารี ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นที่สุดท้ายที่พระแม่มารีอาศัย อยู่และสิ้นพระชนม์ในบ้านหลังนี้ ชมวิหารเทพีอาร์เทมิสโบราณ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ยุคโบราณ สร้างด้วยหินอ่อนเป็นสถาปัตยกรรมกรีกแบบไอโอนิค และมีเสาหินตั้งตระหง่านรอบวิหารมากกว่า 100 ต้น ปัจจุบันเหลือเพียงซากปรักหักพัง แต่ก็ยังสามารถมองเห็นถึงความยิ่งใหญ่ในอดีตได้ จากนั้นนำท่านซื้อขอฝากตามอัธยาศัย ร้านขนม Turkish Delight ของฝากขึ้นชื่อของประเทศตุรกี หลังจากนั้นนำทุกท่านเดินทางสู่ เมืองปามุคคาเล่ ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง(189กม) เมืองที่มีน้ำพุเกลือแร่ร้อนไหลทะลุขึ้นมาจากใต้ดินผ่านซากปรักหักพังของเมืองเก่าแก่สมัยกรีกก่อนที่ไหลลงสู่หน้าผา

ค่ำ

บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเข้าสู่ที่พัก PAMUKKALE NINOVA THERMAL HOTEL หรือเทียบเท่า


วันที่ 4 - ปามุคคาเล่-ปราสาทปุยฝ้าย-เมืองเฮียราโพลิส-เมืองคอนย่า-สวนผีเสื้อเมืองคัปปาโดเกีย-ระบำหน้าท้อง

เช้า

บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่านเข้า ชมโรงงานคอตตอน สามารถเลือกซื้อของฝากเช่น ผ้าพันคอ ผ้าปูที่นอน เสื้อผ้า เป็นต้น เป็นสินค้าที่ผลิตด้วยคอตตอน100% นำท่านชม ปราสาทปุยฝ้าย ผลจากการไหลของน้ำพุเกลือแร่ร้อนนี้ได้ก่อให้เกิดทัศนียภาพของน้ำตกสีขาวเป็นชั้นๆหลายชั้นและผลจากการแข็งตัวของแคลเซียมทำให้เกิดเป็นแก่งหินสีขาวราวหิมะขวางทางน้ำเป็นทางยาว ซึ่งมีความงดงามมาก ท่านจะได้สัมผัส เมืองเฮียราโพลิส (Hierapolis) เป็นเมืองโรมันโบราณที่สร้างล้อมรอบบริเวณที่เป็นน้ำพุเกลือแร่ร้อน ซึ่งเชื่อกันว่ามีสรรพคุณในการรักษาโรค เมื่อเวลาผ่านไปภัยธรรมชาติได้ทำให้เมืองนี้เกิดการพังทลายลง เหลือเพียงซากปรักหักพังกระจายอยู่ทั่วไป บางส่วนยังพอมองออกว่าเดิมเคยเป็นอะไร เช่น โรงละคร แอมฟิเธียร์เตอร์ขนาดใหญ่ วิหารอพอลโล สุสานโรมันโบราณ เป็นต้น

กลางวัน

บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

**พิเศษช่วงเดือน กรกฎาคม เดือนเดียวเท่านั้น** ระหว่างทางนำท่านชม ทุ่งดอกลาเวนเดอร์ Kuyucak Village แห่ง เมืองอิสปาร์ตา หรืออีกชื่อหนึ่งคือ The Lavender Village ที่บานสะพรั่งสวยงาม จะมีเฉพาะเดือน กรกฏาคม ของทุกปี นำท่านเดินทางสู่ เมืองคอนย่า (Konya) ซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรเซลจุก ระยะทาง 387 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง ระหว่างทางแวะชม Caravansarai ที่พักของกองคาราวานในสมัยโบราณ เป็นสถานที่พักแรมของกองคาราวานตามเส้นทางสายไหมและชาวเติร์กสมัยออตโตมันนำทุกท่านสู่ สวนผีเสื้อ Butterfly Garden มีผีเสื้อให้ชมว่า 50 สายพันธุ์ของผีเสื้อ ทำให้เราทราบถึงวงจรชีวิตของผีเสื้อ ณ ที่แห่งนี้จะได้สัมผัสความหลากหลายของพืช ดอกไม้หลากสี พร้อมสัตว์ชนิดอื่นๆ นับว่าเป็นสถานที่อีกแห่งที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง(สวนผีเสื้อจะปิดทำการทุกวันจันทร์ของสัปดาห์หากคณะเดินทางไปที่สวนผีเสื้อตรงกับวันจันทร์ทางคณะจะปรับเปลี่ยนให้เดินทางเข้าชมที่พิพิธภัณฑ์เมฟลาน่าแทน) นำทุกท่านสู่ พิพิธภัณฑ์เมฟลาน่า (Mevlana museum) เดิมเป็นสถานที่นักบวชในศาสนาอิสลามทำสมาธิ โดยการเดินหมุนเป็นวงกลมขณะฟังเสียงขลุ่ย ส่วนหนึ่งของพิพิธภัณฑ์เป็นสุสานของเมฟลาน่า เจลาลุคดิน รูมี่ อาจารย์ทางปรัชญาประจำราชสำนักแห่งสุลต่านอาเลดิน เคย์โคบาท ภายนอกเป็นหอทรงกระบอกปลายแหลมสีเขียวสดใส ภายในประดับฝาผนังแบบมุสลิม และยังเป็นสุสานสำหรับผู้ติดตาม สานุศิษย์ บิดา และบุตร ของเมฟลาน่าด้วย จากนั้นเดินทางสู่ เมืองคัปปาโดเกีย (Cappadocia) ระยะทาง 215 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที

ค่ำ

บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านชมการแสดงพื้นเมือง “ระบำหน้า ท้อง” หรือ Belly Dance เป็นการเต้นรำที่เก่าแก่อย่างหนึ่ง เกิดขึ้นมาเมื่อประมาณ 6000 ปี ในดินแดนแถบอียิปต์ และเมดิเตอร์เรเนียน นักประวัติศาสตร์เชื่อกันว่า ชนเผ่ายิปซีเร่ร่อนคือคนกลุ่มสำคัญที่ได้อนุรักษ์ระบำหน้าท้องให้มีมาจนถึง ปัจจุบัน และการเดินทางของชาวยิปซีทำให้ระบำหน้าท้องแพร่หลาย มีการพัฒนาจนกลายเป็นศิลปะที่โดดเด่น สวยงาม จนกลายมาเป็นระบำหน้าท้องตุรกีในปัจจุบัน (บริการเครื่องดื่มฟรีตลอดการแสดง)

นำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรมสไตล์ถ้ำ!! BURCUKAYA HOTEL หรือเทียบเท่า (คัปปาโดเกีย)

**หมายเหตุ:กรณีห้องพักโรงแรมถ้ำเต็ม ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนเป็นโรงแรมเทียบเท่าระดับเดียวกัน**


วันที่ 5 - เมืองคัปปาโดเกีย-นครใต้ดิน-เมืองเกอเรเม-พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง-หุบเขาอุซิซาร์- อังการ่า

เช้า

บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

** สำหรับท่านใดที่สนใจขึ้นบอลลูนชมความงามของเมืองคัปปาโดเจีย จะต้องออกจากโรงแรม 05.30 น. เพื่อชมความงดงามของเมืองคัปปาโดเจียในอีกมุมหนึ่งที่หาชมได้ยาก ใช้เวลาอยู่บอลลูนประมาณ 1 ชั่วโมง ** (ค่าขึ้นบอลลูนไม่ได้รวมอยู่ในค่าทัวร์ประมาณ 210-250 USD)

 จากนั้นนำทุกท่านสู่ นครใต้ดิน (Underground City) ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกเป็นมรดกโลก เมืองใต้ดินของตุรกีมีอยู่หลายแห่ง แต่ละแห่งมีอุโมงค์เชื่อมต่อถึงกันเป็นสถานที่ที่ผู้นับถือศาสนาคริสต์ใช้หลบภัยชาวโรมันที่ต้องการทำลายร้างพวกนับถือศาสนาคริสต์ เมืองใต้ดินที่มีขนาดใหญ่ แต่ละชั้นมีความกว้างและสูงขนาดเท่าเรายืนได้ ทำเป็นห้อง ๆ มีทั้งห้องครัวห้องหมักไวน์ มีโบสถ์ ห้องโถงสำหรับใช้ประชุม มีบ่อน้ำและระบบระบายอากาศที่ดี แต่อากาศค่อนข้างบางเบาเพราะอยู่ลึกและทางเดินบางช่วงค่อนข้างแคบจนเดินสวนกันไม่ได้ นำทุกท่านเยี่ยมชม พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง ที่ เมืองเกอเรเม (Goreme) ซึ่งยูเนสโกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งซึ่งเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์ในช่วง ค.ศ. 9 ซึ่งเป็นความคิดของชาวคริสต์ที่ต้องการเผยแพร่ศาสนาโดยการขุดถ้ำเป็นจำนวนมากเพื่อสร้างโบสถ์และยังเป็นการป้องกันการรุกรานของชนเผ่าลัทธิอื่นที่ไม่เห็นด้วยกับศาสนาคริสต์ จากนั้นนำท่านชม หุบเขาอุซิซาร์ (Uchisar Valley) หุบเขาคล้ายจอมปลวกขนาดใหญ่ ใช้เป็นที่อยู่อาศัย ซึ่งหุบเขาดังกล่าวมีรูพรุน มีรอยเจาะ รอยขุด อันเกิดจากฝีมือมนุษย์ไปเกือบทั่วทั้งภูเขา เพื่อเอาไว้เป็นที่อาศัย และถ้ามองดี ๆ จะรู้ว่าอุซิซาร์ คือ บริเวณที่สูงที่สุดของบริเวณโดยรอบ ดังนั้นในอดีตอุซิซาร์ ก็มีไว้ทำหน้าที่เป็นป้อมปราการที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเอาไว้สอดส่องข้าศึกยามมีภัยอีกด้วย จากนั้นนำท่านแวะ ชมโรงงานทอพรม โรงงานเซรามิค อิสระกับการเลือกซื้อสินค้า และของที่ระลึก

กลางวัน

บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

เดินทางสู่ เมืองอังการ่า เมืองหลวงของประเทศตุรกี ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง ระหว่างทางให้ท่านได้แวะถ่ายรูปและชมวิวของ ทะเลสาบเกลือ (Salt Lake) จากนั้นนำทุกท่านเดินทางต่อสู่ เมืองอังการ่า หรือที่มีชื่อตามประวัติศาสตร์ว่า Angora เป็นเมืองหลวงของตุรกีในปัจจุบัน และเป็นเมืองใหญ่อันดับ ๒ รองจากนครอิสตันบูล กรุงอังการาตั้งอยู่ในเขต Central Anatolia ใจกลางประเทศตุรกีบนที่ราบสูงอนาโตเลีย โดยอยู่ห่างจากนครอิสตันบูลทางทิศตะวันออกเฉียงใต้เป็นระยะทางประมาณ 450 กิโลเมตร กรุงอังการาเป็นที่ตั้งของรัฐบาลกลาง ส่วนราชการต่าง ๆ และสถานเอกอัครราชทูตประเทศต่าง ๆ ในตุรกี ความสำคัญของกรุงอังการา กรุงอังการามีประชากรจำนวน 4,965,542 คน ทำให้กรุงอังการาเป็นเมืองที่มีประชากรมากเป็นอันดับ ๒ ของตุรกี และอันดับ ๒ ในกลุ่มเมืองหลวงยุโรป ในขณะที่นครอิสตันบูลเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจในภูมิภาคมาร์มารานั้น กรุงอังการาก็เป็นศูนย์กลางทางการค้าและเครือข่ายคมนาคมในภูมิภาคอนาโตเลีย โดยเป็นจุดตัดของการคมนาคมทางบก (รถยนต์และรถไฟ) ที่เชื่อมโยงภูมิภาคต่าง ๆ ของตุรกีเข้าด้วยกัน และเป็นศูนย์กลางตลาดสินค้าเกษตรที่ขนส่งมาจากภาคต่างๆ ทั่วตุรกีด้วย

ค่ำ

บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเข้าสู่ที่พัก ANKARA ROYAL HOTEL หรือเทียบเท่า


วันที่ 6 - เมืองอังการ่า- กรุงอิสตันบูล-ล่องเรือช่องแคบบอสฟอรัส–ตลาดสไปซ์มาร์เก็ตแกรนด์บาซ่าร์

เช้า

บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำทุกท่านออกเดินทางสู่ กรุงอิสตันบูล ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง ระยะทาง 450 กม.

กลางวัน

บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำทุกท่านล่องเรือช่องแคบบอสฟอรัส จุดที่บรรจบกันของทวีปยุโรปและเอเชีย ซึ่งทำให้ประเทศตุรกีได้รับสมญานามว่า ดินแดนแห่งสองทวีป ช่องแคบบอสฟอรัสยังเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญเนื่องจากเป็นเส้นทางเดินเรือที่เชื่อมทะเลดำทะเลมาร์มาร่า เราจะได้เห็นป้อมปืนที่ตั้งเรียงรายอยู่ตามช่องแคบได้แก่ Rumeli Castle และ Anatolia Castle โดยจุดชมวิวที่สำคัญคือสะพาน แขวนบอสฟอรัส เชื่อให้รถยนต์สามารถวิ่งข้ามฝั่งยุโรปและเอเชียได้ สร้างเสร็จในปี ค.ศ.1973 มีความยาวทั้งสิ้น 1,560 เมตร และได้กลายเป็นสะพานแขวนที่ยาวเป็นอันดับ 4 ของโลกในสมัยนั้น (ปัจจุบันตกไปอยู่อันดับที่ 21) ขณะที่ล่องเรือพร้อมดื่มด่ำกับบรรยากาศสองข้างทาง ซึ่งสามารถมองเห็นได้ไม่ว่าจะเป็นพระราชวังโดลมาบาเช่และบ้านเรือนของบรรดาเหล่าเศรษฐีที่สร้างได้สวยงามตระการตา นำท่านสู่ตลาดสไปซ์มาร์เก็ต(Spice Market)หรือตลาดเครื่องเทศ ให้ท่านได้อิสระเลือกซื้อของฝากได้ในราคาย่อมเยา ไม่ว่าจะเป็นของที่ระลึก เครื่องประดับ ชา กาแฟ ผลไม้อบแห้ง ขนมของหวานขึ้นชื่อและถั่วหลากหลายชนิดให้เลือกสรร จากนั้นนำท่านสู่ ตลาดในร่ม (KAPALI CARSISI หรือ COVERED BAZAAR) หรือ แกรนด์บาซาร์ (GRAND BAZAAR) เป็นตลาดเก่าแก่ สร้างครั้งแรกในสมัยสุลต่านเมห์เม็ดที่ 2 เมื่อปี ค.ศ. 1461 ตลาดนี้กินเนื้อที่กว่า 2แสนตารางเมตร ประกอบด้วยร้านค้ากว่า 4,000ร้าน ขายของสารพัด ตั้งแต่ทองหยอง เครื่องประดับ พรม เครื่องเงิน เครื่องหนัง กระเบื้อง เครื่องทองแดง ทองเหลือง สินค้าหัตถกรรม ของที่ระลึก ฯลฯ ที่นี่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงตั้งราคาสินค้าเอาไว้ค่อนข้างสูง ควรต่อรองราคาให้มาก

ค่ำ

บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเข้าสู่ที่พัก ISTANBUL PARK INN BY RADISON HOTEL หรือเทียบเท่า


วันที่ 7 - เมืองอิสตันบูล-เมืองอัลมาตี้

เช้า

บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

ได้เวลาอันสมควร นำทุกท่านเดินทางสู่สนามบิน

08.45 น.

เหิรฟ้าสู่ กรุงอัลมาตี้ โดยสายการบิน Air Astana เที่ยวบินที่ KC-914

17.00 น.

เดินทางถึง สนามบินอัลมาตี้ เพื่อแวะเปลี่ยนเครื่อง (ระหว่างเปลี่ยนเครื่องมีอาหารกล่องบริการ)


วันที่ 8 - เมืองอัลมาตี้-กรุงเทพฯ

01.00 น.

เหิรฟ้าสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบิน Air Astana เที่ยวบินที่ KC-931

08.55 น.

เดินทางถึง สุวรรณภูมิ ประเทศไทยโดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจมิรู้ลืม


*รายการท่องเที่ยวอาจเปลี่ยนแปลงได้ ทั้งนี้โดยคำนึงถึงประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ** 

**ก่อนทำการจองทัวร์ทุกครั้ง กรุณาอ่านโปรแกรมอย่างละเอียดทุกหน้า และทุกบรรทัด เนื่องจากทางบริษัทฯ

จะอิงตามรายละเอียดของโปรแกรมที่ขายเป็นหลัก**



อัตราค่าบริการนี้รวม ( Tour Price Include )

อัตราค่าบริการนี้รวม

-ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ โดยสายการบิน Air Astana ชั้นประหยัด (Economy Class) ที่ระบุวันเดินทางไปกลับพร้อมคณะ

-ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งตามรายการทัวร์

-ค่ารถปรับอากาศนำเที่ยวตามรายการ พร้อมคนขับรถที่ชำนาญเส้นทาง

-ค่าที่พักห้องละ 2 ท่าน ในโรงแรมตามที่ระบุในรายการหรือระดับเทียบเท่า

-ค่าอาหารทุกมื้อที่ระบุตามรายการ (บริการน้ำดื่มบนรถ 1 ขวดเล็ก/ท่าน/วัน และ ในร้านอาหาร 1 ขวดใหญ่ต่อ 4 ท่าน)

-ค่าบัตรเข้าชมสถานที่และการแสดงทุกแห่งที่ระบุตามรายการ

-ค่าประกันอุบัติเหตุในการเดินทางวงเงิน 1,000,000 บาท ค่ารักษาพยาบาล 500,000 บาท วงเงินคุ้มครองอาหารเป็นพิษ (โดยแพทย์จะต้องระบุในใบรับรองแพทย์ว่า ”อาหารเป็นพิษเท่านั้น”)

(หมายเหตุ:ค่าประกันอุบิติเหตุสำหรับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 6 เดือน และ ผู้ใหญ่อายุมากกว่า 75 ปีทางบริษัทประกันฯจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพียงครึ่งหนึ่งของสัญญาฯ)

**ประกันภัยที่ทำจากเมืองไทย ไม่ครอบคลุมการขึ้นบอลลูนและเครื่องร่อนทุกประเภท ดังนั้นการเลือกซื้อ Optional Tour ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของท่าน**



อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม ( Tour Price Excluded )

อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม

-ค่าหนังสือหนังสือเดินทาง

-ค่าน้ำหนักของกระเป๋าเดินทางในกรณีที่เกินกว่าสายการบินกำหนด (20 กิโลกรัมต่อท่าน)

-ค่าใช้จ่ายส่วนตัวต่างๆ เช่น ค่าซักรีด ค่าโทรศัพท์ ค่าอาหารสั่งพิเศษ, ค่ามินิบาร์ในห้องพัก

-ค่าอาหารที่ไม่ได้ระบุไว้ในรายการ, ค่าโทรศัพท์ ค่าซักรีด ฯลฯ

-ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%

-ค่ายกขนกระเป๋าเดินทางท่านละ 1 ใบ โดยเฉลี่ย 1 USD / ท่าน กรณีใช้บริการ bell boy ของแต่ละโรงแรม

-เป็นธรรมเนียมปฏิบัติในการท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวควรทิปแก่มัคคุเทศก์ท้องถิ่นและ คนขับรถที่คอยบริการเราโดยประมาณ 59 USD หรือประมาณ 2,065 บาท ต่อทริป

-ค่าทิปมัคคุเทศก์ท้องถิ่น ท่านละ 3 USD / ท่าน / วัน (คิดเป็น 7 วัน เท่ากับ 21 USD)

เงื่อนไขการสำรองที่นั่งการชำระเงิน ( Condition of Payment )

เงื่อนไขในการจองทัวร์

-งวดที่ 1 : สำรองที่นั่งจ่าย 15,000 บาท/ท่าน (หลังการจองภายใน 3 วัน)พร้อมส่งสำเนาหนังสือเดินทาง

-งวดที่ 2 :ชำระยอดส่วนที่เหลือ ก่อนการเดินทางไม่น้อยกว่า 20 วัน

-หากไม่ชําระค่าใช้จ่ายภายในกําหนด ทางบริษัทจะถือว่าท่านยกเลิกการเดินทางโดยอัตโนมัต

เงื่อนไขการเปลี่ยนแปลง/ยกเลิก ( Cancellation and Amendment )

กรณียกเลิก

-ยกเลิกหลังจากวางเงินมัดจำ บริษัทฯจะคิดค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง ณ วันนั้น ที่ไม่สามารถ คืนเงินได้ (ตัวอย่างเช่น ค่าตั๋วเครื่องบิน, ค่าวีซ่า, ค่ามัดจำห้องพัก เป็นต้น)

-ยกเลิกหลังจากจ่ายเงินเต็มจำนวน บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการคืนเงินทั้งหมดในทุกกรณี

กรณีเจ็บป่วย จนไม่สามารถเดินทางได้ ซึ่งต้องมีใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลรับรอง บริษัทจะทำเรื่องยื่นเอกสารไปยังสายการบิน โรงแรม และในทุกๆการให้บริการ เพื่อให้พิจารณาอีกครั้ง ทั้งนี้ อาจจะต้องใช้ระยะเวลาในการดำเนินการ ซึ่งไม่สามารถแจ้งได้ว่าสามารถคืนเงินได้ทั้งหมดหรือบางส่วน หรือไม่ได้เลย เพราะขึ้นอยู่กับการพิจารณาและตัดสินใจของสายการบิน โรงแรมและในทุกๆบริการอื่นๆเป็นสำคัญ

***หมายเหตุ***

-บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ยกเลิกการเดินทางก่อนล่วงหน้า 15 วัน ในกรณีที่ไม่สามารถทำกรุ๊ปได้อย่างน้อย 20 ท่าน ซึ่งในกรณีนี้ทาง บริษัทฯ ยินดีคืนเงินให้ทั้งหมด หรือจัดหาคณะทัวร์อื่นให้ถ้าต้องการ

-ในกรณีที่คณะออกเดินทางต่ำกว่า 15 ท่าน หรือมาตรฐานของการยืนยันการเดินทาง จะมีการเปลี่ยนแปลงขนาดของพาหนะที่ใช้ในการนำเที่ยว ตลอดรายการทัวร์ โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

-ในกรณีที่คณะออกเดินทางต่ำกว่า 15 ท่าน หรือต่ำกว่ามาตรฐานของการยืนยันการเดินทาง ทางผู้จัดรายการ ขอพิจารณายกเลิกการเดินทาง หรือ เรียกเก็บค่าทัวร์เพิ่มเต็ม ตามความเหมาะสม

-บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงรายละเอียดบางประการในทัวร์นี้ เมื่อเกิดเหตุจำเป็นสุดวิสัยจนไม่อาจแก้ไขได้และจะไม่รับผิดชอบใดๆ ในกรณีที่สูญหาย สูญเสียหรือได้รับบาดเจ็บที่นอกเหนือความรับผิดชอบของหัวหน้าทัวร์และเหตุสุดวิสัยบางประการ เช่น การนัดหยุดงาน ภัยธรรมชาติ การจลาจล ต่างๆ

-บริษัทฯ ไม่รับผิดชอบค่าเสียหายในเหตุการณ์ที่เกิดจากสายการบิน ภัยธรรมชาติ ปฏิวัติ และอื่น ๆ ที่นอกเหนือการควบคุมของทางบริษัทฯ หรือ ค่าใช้จ่ายเพิ่มที่เกิดขึ้นทางตรง หรือทางอ้อม เช่น การเจ็บป่วย การถูกทำร้าย การสูญหาย ความล่าช้า หรือ อุบัติเหตุต่าง ๆ

-ราคานี้คิดตามราคาบัตรโดยสารเครื่องบิน ณ ปัจจุบัน หากมีการปรับราคาบัตรโดยสารสูงขึ้น ตามอัตราค่าน้ำมัน หรือ ค่าเงินแลกเปลี่ยน ทางบริษัท สงวนสิทธิ์ที่จะปรับราคาตั๋ว ตามสถานการณ์ดังกล่าว

-เนื่องจากรายการทัวร์นี้เป็นแบบเหมาจ่ายเบ็ดเสร็จ หากท่านสละสิทธิ์การใช้บริการใดๆตามรายการ หรือ ถูกปฏิเสธการเข้าประเทศไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ไม่คืนเงินในทุกกรณี

-หากลูกค้าท่านใด ยื่นวีซ่าแล้วไม่ได้รับการอนุมัติ ลูกค้าต้องชำระค่ามัดจำที่ 15,000 บาท และค่าวีซ่าตามที่สถานฑูตฯ เรียกเก็บ

เงื่อนไขและข้อกำหนดอื่นๆ ( Other Conditions Restrictions )

หมายเหตุ

1. ราคานี้สำหรับผู้โดยสาร 25 ท่านขึ้นไป หากผู้โดยสารไม่ครบจำนวนดังกล่าวบริษัทฯ ขอเก็บค่าทัวร์เพิ่มท่านละ 2,500 บาท

2. ไม่มีราคาเด็กเนื่องจากเป็นราคาพิเศษแล้ว


วันที่ 1
กรุงเทพฯ-อัลมาตี้-อิสตันบูล
วันที่ 2
อิสตันบูล-สุเหร่าสีน้ำเงิน-ฮิปโปโดรม-พระราชวังทอปกาปึ-สุเหร่าเซนต์โซเฟีย-เมืองไอยวาริค-ม้าไม้จำลองเมืองทรอย
วันที่ 3
โรงงานเครื่องหนัง-เมืองโบราณเอฟฟิซุส-บ้านพระแม่มารี-วิหารเทพีอาร์เทมิสปามุคคาเล่-ร้านขนม Turkish Delight
วันที่ 4
ปามุคคาเล่-ปราสาทปุยฝ้าย-เมืองเฮียราโพลิส-เมืองคอนย่า-สวนผีเสื้อเมืองคัปปาโดเกีย-ระบำหน้าท้อง
วันที่ 5
เมืองคัปปาโดเกีย-นครใต้ดิน-เมืองเกอเรเม-พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง-หุบเขาอุซิซาร์- อังการ่า
วันที่ 6
เมืองอังการ่า- กรุงอิสตันบูล-ล่องเรือช่องแคบบอสฟอรัส–ตลาดสไปซ์มาร์เก็ตแกรนด์บาซ่าร์
วันที่ 7
เมืองอิสตันบูล-เมืองอัลมาตี้
วันที่ 8
เมืองอัลมาตี้-กรุงเทพฯ