Hilight
ธารน้ำแข็งสกาฟตาเฟล / อุทยานแห่งชาติสกาฟตาเฟลล์ / น้ำตกกุลล์ฟอสส์ / น้ำพุร้อนเกีย์เซอร์ / อุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์
ล่องเรือชมวาฬ

รายละเอียดทัวร์
ราคาเริ่มต้น : 147900 | ประเทศ : ทัวร์ยุโรป | จำนวนวัน : 9 วัน 6 คืน | เดือนที่ออกเดินทาง : เดือน ธันวาคม 60- เมษายน 61 | สายการบิน : Thai Airways (TG) |
วันที่ 1 - กรุงเทพฯ-ออสโล
22.00 น.
พร้อมคณะที่สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ประตู 2-3 เคาน์เตอร์ D สายการบินไทย ประตูทางเข้าประตู 1 เที่ยวบิน TG 954 เจ้าหน้าที่จากบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวก
วันที่ 2 - กรุงเทพฯ-ออสโล-เรคยาวิค-เมืองวิค (ไอซ์แลนด์ )
00.25 น.
ออกเดินทารงสู่ประเทศไอซ์แลนด์ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 954
07.25 น.
เดินทางถึงเมืองออสโล ประเทศนอร์เวย์ แวะเปลี่ยนเครื่อง ไปยัง เรคยาวิค (ไอซ์แลนด์ )
10.05 น.
ต่อเครื่องเพื่อเดินทางไปยังเมืองเรคยาวิค โดยสายการบิน สแกนดิเนเวียน แอร์ไลน์ เที่ยวบิน SK 4787
12.00 น.
เดินทางถึงสนามบินนานาชาติ เคฟลาวิค (เรคยาวิค) (ไอซ์แลนด์ ) สนามบินกรุงเรคยาวิค (REYKJAVIK) เมืองหลวงของประเทศไอซ์แลนด์ เป็นเมืองหลวงที่ตั้งอยู่ใกล้กับขั้วโลกเหนือมากที่สุด โดยตั้งอยู่ไม่ไกลจากเส้นอาร์กติกเซอร์เคิลมากนัก
หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง และศุลกากรเรียบร้อยแล้ว นำคณะท่านรับประทานอาหาร
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตราคาร
เดินทางไปยังเมืองวิค (ใช้เวลาประมาณ 3.25 ชม.) ระหว่างทางจะผ่านน้ำตกสโกการ์ Skogarfoss แวะถ่ายภาพ น้ำตกที่มีความสูงถึง 62 เมตร สโคการ์ฟอสส์ได้ชื่อว่าเป็นน้ำตกที่สูงที่สุดทางภาคใต้ของไอซ์แลนด์ ด้วยภาพของม่านน้ำสีขาวขนาดใหญ่ที่
ทรงพลัง ไหลเทลงมาสู่พื้นเบื้องล่างตัดกับลานกว้างและโขดหินด้วยมอสสีเขียวบนกรวดดินสีดำที่เกิดจากเถ้าถ่านลาวาในและ ผ่านน้ำตกเซลจาลันต์ฟอสส์ (Seljalandsfoss Falls) เป็นหนึ่งในน้ำตกที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศไอซ์แลนด์ โดยน้ำตกมี
ความสูงประมาณ 60
ค่ำ
บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก ณ Dyrholaey Hotel Brekkur หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว
วันที่ 3 - หาดทรายดำ - Glacier Lagoon - ธารน้ำแข็งสกาฟตาเฟล-โจกุลซาลอน - อุทยานแห่งชาติสกาฟตาเฟลล์
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านออกเดินทางไปยัง โจกุลซาลอน จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองวิค แวะชม หาดทรายดำ (Black sand Beach) ซึ่งเกิดจาการสึกกร่อนของหินลาวาและแนวหินบะซอลต์ นับเป็นหนึ่งในชายหาดที่แปลกตาและมีความสวยงามที่หนึ่งบนโลก
11.30 น.
นำท่านล่องเรือชมทะเลสาบธารน้ำแข็ง Glacier Lagoon
เที่ยง
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตราคาร
จากนั้นนำท่านสู่ อุทยานแห่งชาติสกาฟตาเฟลล์ (SKAFTAFELL NATIONAL PARK) ชมมวลลาวาขนาดใหญ่เป็นแนวกว้างที่เกิดการเย็นลงอย่างช้าๆทำให้เกิดแนวแตกเป็นเสาเหลี่ยมในเมือง KIRKJUBAEJARKLAUSTUR ถือได้ว่าเป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติอันน่าทึ่ง จนเข้าสู่เขตอุทยานฯที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ตั้งอยู่ใต้ธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดเรียกว่า VATNAJOKULL มีขนาด 8,300 ตร.กม. เท่ากับธารน้ำแข็งทั้งหมดในทวีปยุโรปรวมกัน และขนาดความหนาประมาณ 1,000 เมตร
ค่ำ
บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก
ณ Dyrholaey Hotel Brekkur หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว
วันที่ 4 - หมู่บ้านวิค - ธารน้ำแข็ง Myrdalsjokull – ขับรถสโนว์โมบิล - เซลฟอสส์
08.00 น.
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านสู่ หมู่บ้านวิก (VIK) หมู่บ้านเล็กๆ ทางใต้ของไอซ์แลนด์ ที่มีรายชื่อในการจัดอันดับชายหาดที่สวยที่สุดในโลกเมื่อปี 1991 เป็นหมู่บ้านที่มีฝนตกมากที่สุดในไอซ์แลนด์ ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ชายหาดที่ดีที่สุดแต่ก็เป็นสถานที่น่า
มหัศจรรย์ที่น่าไปชมเป็นอย่างยิ่ง นำท่าน แวะชมความสวยงามที่แปลกตาของหาด อันมีเทือกเขาที่เกิดจากการสึกกร่อน ของหินลาวา และแนวหินบะซอลต์ เป็นหินอัคนีที่พบได้โดยทั่วไป ที่เกิดจากการเย็นตัวของลาวาอย่างรวดเร็วบนพื้นผิวโลก อิสระให้ท่านเดินเล่น และถ่ายภาพตามอัธยาศัย จนได้เวลาอันสมควร ชมความงามของธรรมชาติของหมู่บ้านวิค และนำท่านชม Dyrholaey ซึ่งเป็นหน้าผาสูงชัน ยื่นเข้าไปในทะเล เมื่อขึ้นไปบนหน้าผา มองไปทางเหนือจะเห็นธารน้ำแข็งเมียร์ดาลส์โจกูล (Myrdalsjokull) จากนั้นนำท่าน เดินทางสู่ หมู่บ้านสโคก้าร์ (Skogar Village)
เที่ยง
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตราคาร
เดินทางจะลุยสู่ ธารน้ำแข็ง Myrdaljokull โดยรถจิ๊บและ ขับรถสโนว์โมบิล ตะลุยอย่างเต็มอิ่ม (2คน ต่อ 1 คัน) เพื่อนำท่านเก็บเกี่ยวประสบการณ์การท่องเที่ยวบนธารน้ำแข็ง ด้วยการ ขับขี่รถสโนว์โมบิลตะลุยไปในทุ่งน้ำแข็ง Mýrdalsjökull
Glacier บนดินแดนที่อยู่สูงที่สุดของโลก มีความกว้างใหญ่เป็นอันดับ 4 ที่มีพื้นที่กว่า 596 ตารางกิโลเมตร ตะลุยไปในทุ่งน้ำแข็งกว้างอย่างเต็มอิ่มตลอด 1 ชั่วโมง(คันละ 2 ท่าน) พร้อมอุปกรณ์ครบชุด : ชุดกันความหนาว, หมวกกันน็อก, ถุงมือ, รองเท้า
บู๊ท) จากนั้นนำท่าน สัมผัสกับประสบการณ์การนั่งรถซุปเปอร์จิ๊ป ท่องเที่ยวแบบเจาะลึกบริเวณทุ่งน้ำแข็ง Mýrdalsjökull Glacier อีก 1 ชั่วโมง เพื่อเก็บวิวทิวทัศน์ในส่วนที่รถสโนว์โมบิลตะลุยไปไม่ถึง จนได้เวลาอันสมควรเดินทางสู่ เซลฟอสส์ เมืองเซล
ฟอส (Selfoss) เมืองศูนย์กลางทางการค้าและอุตสาหกรรมที่สำคัญอีกทั้งยังเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดทางตอนใต้ของประเทศ
ค่ำ
บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก ณ Dyrholaey Hotel Brekkur หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว
วันที่ 5 - โกลเด้นเซอร์เคิล – น้ำตกกุลล์ฟอสส์ – น้ำพุร้อนเกีย์เซอร์ – ซิงเควลลิร์ –เพอร์แลนด์ – อุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ – โบสถ์ฮัลล์กรีมสคิร์คยา – Hofdi House
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเที่ยวชมความมหัศจรรย์เหนือธรรมชาติของประเทศไอซ์แลนด์ ใน เส้นทางวงกลมทองคำ หรือ (Golden Circle) สัมผัสทัศนียภาพของทุ่งหญ้าสลับกับทุ่งลาวา ฝูงสัตว์นานาชนิดทั้ง แกะ วัว ม้า ที่เลี้ยงและหากินตามธรรมชาติจากนั้นนำท่าน
ชมน้ำตกกูลฟอสส์ หรือ ไนแองการ่าแห่งไอซ์แลนด์ (Gullfoss)ถือเป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของประเทศ และยังเป็น 1 ใน 3 สถานที่ในเส้นทาง วงแหวนทองคำ สถานที่ที่ผู้มาเยือนไอซ์แลนด์ไม่ควรพลาด ชื่อน้ำตก Gullfoss นี้มาจากคำว่า Gull ที่
แปลว่าทองคำและ Foss ที่แปลว่าน้ำตก เมื่อรวมกันหมายถึงน้ำตกทองคำ ถือเป็นหนึ่งในความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติระดับโลกที่เกิดจากการละลายของธารน้ำแข็งและลดระดับลงในโตรกเขาเบื้องล่างในระดับความสูงกว่า 30 เมตรจากนั้น นำท่านชม
น้ำพุร้อนเกย์ซีร์ (GEYSIR) น้ำพุร้อนที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของไอซ์แลนด์ มีความร้อนประมาณ 400 องศาเซลเซียส พุ่งขึ้นมาจากใต้ดิน ในอดีตน้ำพุร้อน สามารถพุ่งได้สูงถึง 200 ฟุตทีเดียว แต่น่าเสียดายที่ในปัจจุบันไม่เป็นเช่นนั้นอีกแล้ว แต่ก็
ยังสามารถพุ่งได้มากสุดที่ประมาณ 60 – 100 ฟุต ทุกๆ 5 นาที นับเป็นหนึ่งในความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติอีกแห่งหนึ่งที่ท่านไม่ควรพลาดนำท่านชม น้ำพุร้อนธรรมชาติ (Geysir)
เที่ยง
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตราคาร
นำท่านเข้าชมความงามของธรรมชาติที่สรรสร้างขึ้นภายใน อุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ (Thingvellir National Park) อยู่ทางด้านตะวันออกของเรคยาวิค เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของไอซ์แลนด์ ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1928 ถูกขึ้นทะเบียนจากองค์
การยูเนสโก (UNESCO) ว่าให้เป็นสถานที่อันเป็นมรดกของชาวโลกในปี ค.ศ. 2004 นอกจาก Thingvellir จะมีรอยแตกแยกของแผ่นดินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก (The Mid-Atlantic Rift) แล้ว ยังมีภูเขา ทุ่งลาวา หุบผา ถ้ำ ลำธาร น้ำตกและทะเลสาบที่
ใหญ่ที่สุดของประเทศ ชมรอยแตกของเปลือกโลกที่กว้างขึ้นในแต่ละปี เนื่องจากมีการเคลื่อนตัวแยกออก จากกันอยู่ตลอดเวลา พร้อมชมร่องรอยอาคารรัฐสภาอันเก่าแก่ตั้งแต่ปี 930 อิสระให้ท่านถ่ายภาพ อุทยานแห่งชาติธิงเควลลิ
ร์(Pingvellir National Park) ซึ่งได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ โดยอุทยานแห่งชาตินี้ ตั้งอยู่ระหว่างรอยแยกของหุบเขากับทะเลสาบ Pingvallavatn ซึ่งเป็นทะเลสาบตามธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์ ใกล้กับ
คาบสมุทรเรกยาเนส (Reykjanes) และภูเขาไฟเฮนกิลล์ (Hengill) เป็นจุดกำเนิดทางประวัติศาสตร์และทางธรณีวิทยา เพราะเป็นจุดที่มีรอยเลื่อนของโลกเป็นระยะทางหลายหมื่นกิโลเมตร ระหว่างทางแวะชมเคริด(KERID VOLCANO)ร่องรอยปล่อง
ภูเขาไฟที่ดับแล้วมีน้ำท่วมขังจนเป็นทะเลสาบกว้าง จากนั้นเดินทางสุ่ เรคยาวิค เพื่อชม โบสถ์ฮัลล์กรีมสคิร์คยา เป็นโบสถ์ทางศาสนาคริสต์ที่สูงที่สุดในไอซ์แลนด์ ตัวโบสถ์มีความสูงถึง 74.5 เมตร สร้างตามแบบสถาปัตยกรรมแนวอิมพราสชั่นนิส
เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี1945 แล้วเสร็จปี ค.ศ.1986 บริเวณด้านหน้าของโบสถ์ยังมีอนุสาวรีย์ของเลฟร์ อีริกสัน (Leifr Eiriksson) ยืนตระหง่านอยู่เบื้องหน้า ซึ่งในประวัติศาสตร์ไอซ์แลนด์ถือว่าวาเลฟร์ เป็นชาวนอสร์ ชาติยุโรปคนแรกที่ไป
เหยียบดินแดนแถบอเมริกาเหนือซึ่งรวมถึงกรีนแลนด์ด้วย โดยอนุสาวรีย์นี้สหรัฐอเมริกามอบให้แก่ไอซ์แลนด์เนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 1,000 ปี รัฐสภาของไอซ์แลนด์ นำท่านไปชมสถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งคือ Hofdi House บ้านที่มีเรื่องราว
ในประวัติศาสตร์ของชาติอันน่าสนใจ เคยใช้เป็นที่รับรองและจัดเลี้ยง ผู้นำ 2 ประเทศมหาอำนาจผู้ยิ่งใหญ่ในการยุติสงครามเย็น นำท่าน ผ่านชมรัฐสภาของชาวไอซ์แลนด์ และศาลาเทศบาลเมือง จากนั้นนำท่าน ชมเพอร์แลน (PERLAN) สถานที่ที่มี
เอกลักษณ์โดดเด่น และเป็นสัญลักษณ์ของเมืองเรคยาวิก เนื่องจากตั้งอยู่บนเนินเขา มีความสูงเท่ากับอาคาร 5 ชั้น จากพื้นดิน 25.7 เมตร เป็นอาคารขนาดใหญ่ ด้านบนเป็นรูปทรงคล้ายลูกโลกครึ่งวง ตั้งอยู่บนฐานที่คล้ายถังน้ำขนาดใหญ่ 4 ฐาน ที่
มองเห็นได้ในระยะไกลโดดเด่น Perlan ในภาษาไอซ์แลนด์ ตรงกับภาษาอังกฤษว่า The Pearl ที่แปลว่า อ่าว ซึ่งการสร้างสถานที่แห่งนี้จะให้หมายถึงว่าเป็นสัญลักษณ์ของอ่าวเรคจาวิก
ค่ำ
บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก ณ Center Hotel Anarhvoll Reykjavik หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว
วันที่ 6 - ล่องเรือชมปลาวาฬ –Concert house- บลูลากูน-เคฟลาวิค
เช้า
รับประทานอาหารเช้าบุฟเฟ่ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
08.15 น.
จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ ท่าเรือเรคยาวิค
09.00 น.
นำท่านล่องเรือชมปลาวาฬ (ขอสงวนสิทธิ์ในกรณีที่บริษัทฯ เรือยกเลิกให้บริการอันเนื่องมาจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย) กิจกรรมอันเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวในการดูวาฬแบบธรรมชาติวาฬมิงค์ หรือ ในสำเนียงภาษาไอซ์แลนด์ เรียกว่า มิงคี (Minke) การล่องเรือชมวาฬใช้เวลาประมาณ3 ชั่วโมง
เที่ยง
นำท่านชม Concer House และ นำท่านสัมผัสสถานที่ท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพระดับโลกและโด่งดังที่สุดของประเทศไอซ์แลนด์ บลูลากูน (Blue Lagoon) หรือ ทะเลสาบสีฟ้านักท่องเที่ยวกว่า 95% ต่างไม่พลาดกับการมาเยือนสถานที่แห่งนี้ อิสระให้ท่าน
แช่น้ำแร่ธรรมชาติผ่อนคลายไปกับ Stream & Sauna เพื่อการพักผ่อนตามอัธยาศัย (มีบริการผ้าขนหนูให้ท่าน กรุณาเตรียมชุดว่ายน้ำและหมวกคลุมผมไปด้วยสำหรับการแช่น้ำแร่ในบลูลากูน
ให้ท่านได้พักผ่อนตามอัธยาศัยและแช่น้ำแร่ที่บลูลากูน
ค่ำ
บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก ณ Icelandair Hotel Keflavik : เคฟลาวิคหรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน
วันที่ 7 - เรคยาวิค (ไอซ์แลนด์ )–โคเปนเฮเกน ( เดนมาร์ก )
เช้า
รับประทานอาหารเช้าบุฟเฟ่ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
เดินทางสู่สนามบิน เช็คอินที่สนามบินนานาชาติ เคฟลาวิค (เรคยาวิค) ประเทศไอซ์แลนด์
07.45 น.
นำท่านเดินทางสู่โคเปเฮเก้น โดยสายการบิน ไอซ์แลนด์แอร์ เที่ยวบิน FI 204
12.45 น.
เดินทางมาถึงเมืองโคเปเฮเก้น (ประเทศเดนมาร์ก )
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตราคาร
ให้ทุกท่านได้ช้อปปิ้งให้จุใจกันตามอัธยาศัย เดินเล่นบริเวณจุดเริ่มต้นของถนนช้อปปิ้งสายสำคัญของเมืองที่เรียกว่า สตร้อยท์ (THE STROGET) ตามภาษาแดนิช เป็นถนนช้อปปิ้งสายที่ยาวที่สุดของโลกอีกด้วย ถนนสายนี้เชื่อมต่อกับจัตุรัสคองนูโทรว์ ซึ่ง
มีพระบรมรูปทรงม้าของพระเจ้าคริสเตียนที่ 5 อยู่ตรงจุดกึ่งกลาง ตลอดทางของถนนคนเดินความยาวราว 2 กิโลเมตรมีสินค้าให้เลือกหลากหลายชนิด ทั้งสินค้าแบรนด์เนมหลากหลายแบรนด์ ยิ่งพระอาทิตย์ใกล้ตกดินบรรยากาศที่ถนนคนเดินแห่งนี้ ยิ่ง
เต็มไปด้วยความคึกคัก และสีสัน ทั้งคนในเมืองที่ออกมาเดินเล่น และนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลมาจากทั่วทุกสารทิศ นอกจากสินค้าแบรนด์เนมแล้ว ยังมีสินค้าของที่ระลึกให้เลือกสรรมากมายอีกเช่นเดียวกัน อิสระให้ท่านช้อปปิ้งเพลิดเพลินกับการเดินเล่น
และถ่ายภาพบรรยากาศของเมืองตามอัธยาศัย
ค่ำ
บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก ณ Hotel Radison Royal Copenhagen หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว
วันที่ 8 - โคเปนเฮเก้น – ลิตเติ้ลเมอร์เมด – น้ำพุแห่งราชินี เกฟิออน – เดินทางกลับกรุงเทพฯ
เช้า
รับประทานอาหารเช้าบุฟเฟ่ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
พาท่านนั่งรถชมเมือง โคเปนเฮเก้นเมืองหลวงของประเทศเดนมาร์ก และเป็นเมืองชายฝั่งทะเลตั้งอยู่ชายฝั่งตะวันออกของเกาะซีแลนด์ และเป็นย่านธุรกิจที่สำคัญ เนื่องจาก
มีการทำประมง และเป็นเมืองท่าของการขนส่งสินค้าการท่องเที่ยว และอุตสาหกรรม อีกทั้งยังเป็นเมืองใหญ่ที่สวยงามและน่าสนใจด้วยมีลักษณะของการผสมผสานวิถีชีวิต
หลากหลายและไปเยือนยังแหล่งกำเนิด “LittleMermaid” กับตำนานความรักของเงือกน้อยที่ยอมเสียทุกสิ่งเพื่อเจ้าชายที่แสนรัก สัญลักษณ์ของเมืองซี่งตั้งอยู่ที่ริมอ่าว
โคเปนเฮเกนนักท่องเที่ยวแทบทุกคนมาตรงจุดนี้เพื่อถ่ายรูปคู่กับเธอ ที่ยังคงนั่งหน้าเศร้าเฝ้ารอ เจ้าชายคนรักตามเนื้อเรื่องในเทพนิยายของ ฮันส์ คริสเตียน แอนเดอสัน
ขณะเดียวกันท่านจะได้ทราบเรื่องราวอันเป็นที่มาของเงือกน้อยตามเนื้อหาในเทพนิยายรักบันลือโลกปัจจุบันลิตเติ้ลเมอร์เมดมี "น้องสาว" ที่สร้างขึ้นเป็นสัญลักษณ์เมืองใหม่
เมื่อ 15 กันยายน ค.ศ.2006 เป็นเงือกน้อยสาวสไตล์โพสต์โมเดิร์น แต่ตั้งแสดงอยู่ที่ Langelinie ในอ่าวโคเปนเฮเกน ไม่ไกลจากที่ตั้งเงือกน้อยตัวเดิม ต่อมาพาท่านไปชม
น้ำพุแห่งราชินี เกฟิออน (Gefion) น้ำพุแห่งมราชินีเกฟิออนเป็นน้ำพุขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้นในรูปทรงที่แปลกตา มองดูคล้ายกับเป็นธารน้ำตกจำลอง ตั้งอยู่ในบริเวณหน้า
ท่าเรือเมืองโคเปนเฮเกน ซึ่งที่มาของน้ำพุแห่งนี้มีตำนานเล่าขานว่า นานมาแล้วมีพระราชินีนามว่าเกฟิออนได้รับมอบหมายจากเทพเจ้าให้สร้างชาติบ้านเมืองขึ้น นางจึงรับ
สั่งให้พระโอรสทั้ง 4 แปลงกายเป็นพระโค เพื่อช่วยกันไถเกลี่ยพื้นดินจนกลายเป็นประเทศเดนมาร์กดังในปัจจุบัน ดังนั้นชาวเมืองจึงได้สร้างอนุสาวรีย์ของนางขึ้นเพื่อเป็น
เกียรติแด่พระองค์และพระราชโอรสนั่นเอง และไปกันต่อที่ พระราชวังอมาเลียนบอร์ก สร้างขึ้นเมื่อกลางศตวรรษที่ 18 เพื่อเฉลิมฉลองวาระการครบรอบ 300 ปีของราชวงศ์
โอลเดนบวร์ก หลังจากนั้นเพียงไม่กี่ปีพระราชวังแห่งนี้ถูกใช้เป็นที่พำนักของเหล่าราชวงศ์หลังจากพระราชวังคริสเตียนบอร์กถูกเผาทำลายลงในปีค.ศ. 1794 ในอาณา
บริเวณประกอบไปด้วยพระราชวังทั้งสี่และโบสถ์หนึ่งหลังซึ่งทั้งหมดนี้ถูกสร้างขึ้นในสไตล์เดนมาร์กโรโคโคและตั้งโดดเด่นเป็นศูนย์กลางบนจัตุรัสที่งดงามมากที่สุดในยุโรป
11.00 น.
สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่สนามบินกรุงโคเปนเฮเก้น เพื่อเตรียมเดินทางกลับ มีเวลาให้ท่านได้ทำ Tax Refund
14.25 น.
เดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ โดย สายการบินไทยเที่ยวบินที่ TG 951
วันที่ 9 - กรุงเทพฯ
06.00 น.
เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ
(หมายเหตุ ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนโปรแกรมเพื่อความเหมาะสมโดยมิได้แจ้งล่วงหน้า
โดยจะคำนึงถึงผลประโยชน์ที่นักท่องเที่ยวได้รับเป็นหลักฯ)
อัตราค่าบริการนี้รวม ( Tour Price Include )
ค่าทัวร์รวม
ü ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ และค่าตั๋วเครื่องบิน สายการบินภายในประเทศ รวมค่าภาษี และส่วนเพิ่มของน้ำมันเชื้อเพลิง
ü ค่าพาหนะท่องเที่ยวตามที่ระบุในรายการ
ü ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ ตามที่ระบุในรายการ
ü โรงแรมที่พักตามที่ระบุในรายการ หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน (ห้องละ 2 ท่าน)
ü ค่าอาหารตามที่ระบุในรายการ คัดสรรเมนู ให้ท่านได้เลิศรสในแต่ละประเทศ
ü ค่าธรรมเนียมวีซ่าเชงเก้น
ü ค่าบริการนำทัวร์โดยหัวหน้าทัวร์ผู้มีประสบการณ์นำเที่ยว และคอยดูแลอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง 1 ท่าน
ü ค่าประกันการเดินทางท่องเที่ยว
ü ค่ายกกระเป๋าใบใหญ่ท่านละ 1 ใบ น้ำหนักไม่เกิน 20 กิโลกรัม ส่วนกระเป๋าใบเล็กอยู่ในความดูแลของท่านเองไม่เกิน 7 กิโลกรัม
ü ค่าทิปคนขับรถตลอดการเดินทาง
ü บริการน้ำดื่มท่านละ 1 ขวดและอาหารเช้าแบบกล่อง “เมนูหมูทอดมหัศจรรย์” ในวันที่สองของโปรแกรมการเดินทาง
อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม ( Tour Price Excluded )
ค่าทัวร์ไม่รวม
ý ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 % และค่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3 %
ý ค่าทำหนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต)
ý ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิ ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, ค่าเครื่องดื่มในห้องพัก และค่าอาหารที่สั่งมาในห้องพัก ค่าอาหารและเครื่องดื่มที่สั่งพิเศษในร้านอาหารนอกเหนือจากที่ทางบริษัทฯ จัดให้ ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ตามที่ระบุไว้ในรายการ ยกเว้นจะตกลงกันเป็นกรณีพิเศษ เช่น หากท่านทานได้เฉพาะอาหารทะเลเพียงอย่างเดียวท่านต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม
ý ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ (Tour Leader) : ผู้คอยดูแลอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง ความจำเป็นในเรื่องทิปสำหรับหัวหน้าทัวร์เป็นเรื่องที่คาดหวัง หากการบริการนั้นเป็นที่ประทับใจของท่าน
เงื่อนไขการสำรองที่นั่งการชำระเงิน ( Condition of Payment )
วิธีการจอง
ý กรุณาชำระมัดจำท่านละ 20,000 บาท ภายใน 3 วัน จากวันจอง และชำระส่วนที่เหลืออย่างน้อย 20 วันก่อนเดินทาง
หรือในกรณีสายการบินให้ออกตั๋วก่อนกำหนดปกติ ทั้งนี้ บริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้าก่อนจะมีการเรียกเก็บเงิน
เงื่อนไขการเปลี่ยนแปลง/ยกเลิก ( Cancellation and Amendment )
เงื่อนไขการยกเลิก
ý ยกเลิกหลังการจอง หักค่ามัดจำ 1,000 บาท (ค่าบริการของพนักงาน)
ý ยกเลิกก่อนการเดินทาง 30 วัน หักค่ามัดจำ 20,000 บาท
ý ยกเลิกก่อนการเดินทาง 15 วัน หักค่าใช้จ่าย 50% ของราคาทัวร์
ý ยกเลิกการเดินทาง 1-3 วัน หักค่าใช้จ่าย 100% ของราคาทัวร์
ý ในกรณีออกตั๋วเครื่องบินหรือจองโรงแรมไปแล้ว ทางบริษัทฯ จะคิดค่าบริการตามจริง
เงื่อนไขและข้อกำหนดอื่นๆ ( Other Conditions Restrictions )
โปรดทราบ
ý บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกการเดินทาง ในกรณีที่มีผู้เดินทางต่ำกว่า 15 ท่าน โดยที่จะแจ้งให้ผู้เดินทางทราบอย่างน้อย 15 วัน ก่อนเดินทาง
ý บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายการท่องเที่ยว กรณีที่เกิดเหตุจำเป็นสุดวิสัย อาทิ การล่าช้าของสายการบิน, การนัดหยุดงาน, การประท้วง, ภัยธรรมชาติ, การก่อจราจล, อุบัติเหตุ, ปัญหาการจราจร ฯลฯ ทั้งนี้จะคำนึงถึงและจะรักษาผลประโยชน์ของท่านไว้ให้ได้มากที่สุด
ý บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น และจะไม่คืนเงินค่าทัวร์ที่ท่านชำระมาแล้ว หากท่านถูกปฏิเสธวีซ่า หรือการเข้าออกเมือง อันเนื่องจากการกระทำที่ส่อไปในทางผิดกฎหมาย หรือการหลบหนีเข้าเมือง ฯลฯ
ý เมื่อท่านจองทัวร์และชำระมัดจำแล้ว หมายถึงท่านยอมรับในข้อความและเงื่อนไขที่บริษัทฯ แจ้งแล้วข้างต้น
ข้อมูลการยื่นวีซ่า ( Visa Information )
เอกสารในการยื่นวีซ่า ใช้เวลาประมาณ 15 วันทำการ
þ พาสปอร์ตที่ยังไม่หมดอายุ และมีอายุไม่ต่ำกว่า 6 เดือนก่อนวันหมดอายุ หากมีพาสปอร์ตเล่มเก่าไม่ว่าจะเคยมีวีซ่าในกลุ่มประเทศเชงเก้นหรือประเทศอื่นหรือไม่ ควรนำไปแสดงด้วยเพื่อเป็นการง่ายต่อการอนุมัติวีซ่า
þ รูปถ่ายสีขนาด 45มม.x35มม. จำนวน 2 ใบ พื้นหลังต้องเป็นสีขาว (ไม่ใช่รูปขาวดำ) และเหมือนกันทั้ง 2 รูป ควรมีอายุไม่เกิน 6 เดือน และไม่เคยใช้ขอวีซ่าประเทศอื่นๆ มาก่อน
þ สำเนาทะเบียนบ้าน /สำเนาบัตรประชาชนหรือสำเนาบัตรข้าราชการ /สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล /สำเนาทะเบียนสมรสหรือหย่า /สำเนาสูติบัตร (ในกรณีอายุไม่ถึง 20 ปีบริบูรณ์)
þ หนังสือรับรองการทำงานจากบริษัทหรือสังกัดที่ท่านทำงานอยู่ ต้องเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้นโดยระบุตำแหน่ง, อัตราเงินเดือนในปัจจุบัน, วันเดือนปีที่เริ่มทำงานกับบริษัทนี้ และช่วงเวลาที่ขอลางานเพื่อเดินทางไปท่องเที่ยว
þ กรณีที่เป็นเจ้าของกิจการ ขอสำเนาใบจดทะเบียนการค้า, สำเนาใบทะเบียนพาณิชย์ และสำเนาหนังสือรับรองบริษัทที่คัดไว้ไม่เกิน 6 เดือน พร้อมวัตถุประสงค์หรือใบเสียภาษี และสำเนาหลักฐานการเงินของบริษัทย้อนหลัง 6 เดือน
þ สมุดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ฉบับจริง (กรุณานำมาด้วยในวันที่มาขอวีซ่า)
þ หนังสือรับรองจากธนาคารบัญชีออมทรัพย์ เป็นภาษาอังกฤษ (BANK CERTIFICATE) ***สถานทูตไม่รับบัญชีกระแสรายวัน***
þ สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์บัญชีส่วนตัว ย้อนหลัง 6 เดือนอัพเดทเป็นเดือนปัจจุบัน ควรเลือกเล่มที่มีการเข้าออกของเงินสม่ำเสมอและมีจำนวนไม่ต่ำกว่า 6 หลัก เพื่อให้เห็นว่ามีฐานะการเงินเพียงพอที่จะครอบคลุมกับค่าใช้จ่ายได้อย่างไม่เดือดร้อนเมื่อกลับสู่ภูมิลำเนา ในกรณีที่เดินทางเป็นครอบครัวหากใช้บัญชีใดบัญชีหนึ่งในการยื่นขอวีซ่า ต้องออกหนังสือรับรองค่าใช้จ่ายเป็นภาษาอังกฤษในครอบครัวด้วย ***สถานทูตไม่รับบัญชีกระแสรายวัน***
þ กรณีที่บริษัทของท่านเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้กับผู้เดินทางทั้งหมด นอกเหนือจากเอกสารข้อ 1-6 แล้ว ทางบริษัทจะต้องออกจดหมายอีกหนึ่งฉบับเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อค่าใช้จ่ายและการกลับมาทำงานของท่าน โดยระบุชื่อผู้เดินทางและเหตุผลที่จัดการเดินทางนี้ในจดหมายด้วย
þ กรณีที่เป็นนักเรียน นักศึกษาจะต้องมี หนังสือรับรองเป็นภาษาอังกฤษจากสถาบันการศึกษาฉบับจริง
þ กรณีที่เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ เดินทางกับบิดาหรือมารดา “ท่านใดท่านหนึ่ง” จะต้องมีหนังสือยินยอมจากที่ว่าการอำเภอหรือเขต โดยที่บิดาหรือมารดา ต้องไปยื่นเรื่องแสดงความจำนงในการอนุญาตให้บุตรเดินทางไปกับอีกท่านหนึ่งได้ ณ ที่ว่าการอำเภอหรือเขต โดยมีนายอำเภอหรือผู้อำนวยการเขตลงลายมือชื่อและประทับตรารับรองจากทางราชการอย่างถูกต้อง
þ หากสถานทูตมีการสุ่มเรียกสัมภาษณ์บางท่าน ทางบริษัทฯ ใคร่ขอความร่วมมือท่านไปสัมภาษณ์ตามนัดหมาย และกรุณาแต่งกายชุดสุภาพ ทั้งนี้จะมีเจ้าหน้าที่บริษัทฯไปอำนวยความสะดวกและประสานงาน และหากสถานทูตขอเอกสารเพิ่มเติม ทางบริษัทฯ ใคร่ขอรบกวนท่านจัดส่งเอกสารเพิ่มเติมดังกล่าวเช่นกัน
þ การบิดเบือนข้อเท็จจริงประการใดก็ตาม อาจจะถูกระงับมิให้เดินทางเข้าประเทศเป็นการถาวร และถึงแม้ว่าท่านจะถูกปฏิเสธวีซ่าทางสถานทูตไม่คืนค่าธรรมเนียมที่ได้ชำระไปแล้ว และหากต้องการขอยื่นคำร้องใหม่ ต้องชำระค่าธรรมเนียมใหม่ทุกครั้ง
þ สถานทูตไม่มีนโยบายในการคืนค่าธรรมเนียมวีซ่าให้กับผู้ร้องขอ หากท่านไม่ผ่านการพิจารณาวีซ่าไม่ว่าจะเป็นเหตุผลใดก็ตาม ท่านไม่สามารถเรียกร้องขอคืนค่าธรรมเนียมวีซ่าได้
þ กรณีที่ท่านยกเลิกการเดินทางภายหลังจากได้รับพิจารณาวีซ่าแล้ว ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการแจ้งสถานทูต เพื่อทำการยกเลิกวีซ่าของท่าน เนื่องจากการขอวีซ่าในแต่ละประเทศจะถูกบันทึกไว้เป็นสถิติในนามของบริษัทฯ